ในทางวิทยาศาสตร์ หินอ่อนเป็นหินแปรชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในประเภทหินแปรแบบไม่แสดงริ้วขนาน คือไม่สามารถสังเกตเห็นการเรียงตัวเป็นชั้นของผลึกแร่ได้ โดยหินอ่อนเคยเป็นหินปูน (Limestone) มาก่อนซึ่งประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นองค์ประกอบหลัก
หินอ่อนเกิดจากการที่หินปูนได้รับความร้อนและความดันมหาศาลใต้แผ่นเปลือกโลก โดยกระบวนการทางธรณีวิทยาที่ทำให้เกิดหินอ่อนเรียกว่า "กระบวนการแปรสภาพ" (Metamorphism) ความร้อนและความดันมหาศาลจะทำให้ผลึกแร่แคลไซต์ในหินปูนเกิดการตกผลึกใหม่ ส่งผลให้หินปูนกลายเป็นหินอ่อนที่มีเนื้อแน่นละเอียดขึ้น
หินอ่อนมีสีสันและลวดลายที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของแร่ธาตุอื่นๆ ที่ปะปนอยู่ในหินปูน เช่น หินอ่อนสีขาวจะมีองค์ประกอบของแร่ธาตุควอตซ์เป็นหลัก หินอ่อนดำจะมีองค์ประกอบของแร่ธาตุแมกนีเซียมเป็นหลัก เป็นต้น
หินอ่อนเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีความสวยงาม หรูหรา และทนทาน จึงนิยมนำมาใช้ตกแต่งภายใน เช่น ปูพื้น ผนัง และทำเฟอร์นิเจอร์ นอกจากนี้ยังนิยมนำมาแกะสลักเป็นงานศิลปะต่างๆ เช่น พระพุทธรูป รูปปั้น เป็นต้น
คุณสมบัติของหินอ่อน
หินอ่อนมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
การดูแลรักษาหินอ่อน
หินอ่อนควรได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่าง และควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะทางเท่านั้น
นอกจากนี้ หินอ่อนควรได้รับการขัดเงาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อรักษาความเงางามและป้องกันรอยขีดข่วน