หินอ่อนเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีความสวยงาม แข็งแรง และทนทาน จึงถูกนำมาใช้สร้างสถาปัตยกรรมเอกของโลกมากมาย หินอ่อนมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- ความแข็ง หินอ่อนมีความแข็งระดับ 3 ถึง 4 ตามมาตราความแข็งแร่ของโมส ทำให้หินอ่อนมีความทนทานต่อการใช้งาน ไม่แตกหักง่าย
- ความเหนียว หินอ่อนมีความเหนียวสูง ไม่แตกหักง่าย
- ความทนทาน หินอ่อนมีความทนทานต่อการใช้งาน สามารถทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดี
- ความเงางาม หินอ่อนมีความเงางาม สะท้อนแสงได้ดี
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้หินอ่อนเป็นวัสดุที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการสร้างสถาปัตยกรรม หินอ่อนสามารถนำมาใช้ในการตกแต่งอาคาร ตกแต่งภายใน และตกแต่งภายนอกได้หลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างสถาปัตยกรรมเอกของโลกที่สร้างขึ้นจากหินอ่อน ได้แก่
- วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) วิหารโบราณที่ตั้งอยู่ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวทั้งหลัง ประดับด้วยลวดลายและรูปปั้นต่างๆ ที่สวยงาม แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรมกรีกโบราณ
วิหารพาร์เธนอน ประเทศกรีซ
- มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Basilica) มหาวิหารโรมันคาทอลิกที่ตั้งอยู่ในนครรัฐวาติกัน ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวและหินอ่อนสีดำ ประดับด้วยลวดลายและรูปปั้นต่างๆ ที่สวยงาม เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ประเทศอิตาลี
- พระราชวังแวร์ซาย (Palace of Versailles) พระราชวังที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวและหินอ่อนสีดำ ประดับด้วยลวดลายและรูปปั้นต่างๆ ที่สวยงาม เป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองของราชวงศ์ฝรั่งเศส
พระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส
- ทัชมาฮาล (Taj Mahal) สุสานหินอ่อนสีขาวที่ตั้งอยู่ในเมืองอัครา ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ทัชมาฮาลสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่พระมเหสีของจักรพรรดิชาห์จาฮาน เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดในโลก
หินอ่อนเป็นวัสดุที่มีความสำคัญต่อสถาปัตยกรรมมาอย่างยาวนาน หินอ่อนถูกนำมาใช้สร้างสถาปัตยกรรมเอกของโลกมากมาย แสดงให้เห็นถึงความงาม ความแข็งแรง และทนทานของหินอ่อน